วัดหัวข่วง 
[Wat Hua Khuang]

Wat Hua Khuang แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม ชุมชนโบราณ/โบราณสถาน/โบราณวัตถุ

แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม

ภาคเหนือ กลุ่มครอบครัว/


เปิดGoogle map

เมืองพล ชื่อแต่แรกเริ่มของเมืองแพร่ พญาพล เจ้าผู้ครองนครแพร่คนแรก หลังจากที่ได้โยกย้ายถิ่นฐานมาสร้างบ้านแปลงเมืองในแพร่ ได้สร้างวัดแห่งหนึ่งขึ้นนั่นก็คือวัดหลวง ตั้งให้เป็นวัดประจำเมืองแพร่ หลังจากปกครองเมืองแพร่มาเป็นเวลานานและอายุมากขึ้น จึงได้ยกเมืองให้แก่โอรสนามว่าท้าวพหุสิงห์ หลังจากขึ้นครองเมืองแล้ว ด้วยความที่ท้าวพหุสิงห์มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างมาก จึงคิดที่จะบูรณะวัดได้ว่าจ้างช่างชาวเมืองเวียงพางคำเชียงแสน มาซ่อมแซมบูรณะวัดหลวง เมื่อช่างบูรณะวัดหลวงเสร็จเรียบร้อยแล้ว แม่เฒ่าจันคำวงศ์ ย่าของท้าวพหุสิงห์ได้เห็นฝีมือที่สวยงามของช่าง จึงคิดจะสร้างวัดขึ้นใหม่อีกแห่งหนึ่ง จึงเลือกเอาที่ดินว่างเป็นลานกว้างขวางกว่าเดิมใช้เป็น ข่วงเล่นกีฬาประจำเมือง เป็นที่สร้างวัด และใช้ช่างคนเดิมที่เคยมาบูรณะวัดหลวง วัดที่สร้างขึ้นใหม่ได้ชื่อว่า วัดหัวข่วงสิงห์ชัย ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างในสมัยเดียวกันกับพระธาตุช่อแฮ ภายในวัดหัวข่วงมีปูชนียสถานที่สำคัญเป็นมรดกที่อยู่คู่วัดมาเป็นพันปี คือ พระธาตุหัวข่วง เป็นพระธาตุเจดีย์ที่สร้างด้วยอิฐจำนวนมาก มีฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยม กว้างด้านละ 13.50 เมตร สูง 25.60 เมตร ภายใต้ฐานเจดีย์มีสำเภาเงิน สำเภาทอง บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า และพระธาตุเจดีย์แห่งนี้ยังมีตำนานเล่าขานถึงความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้น โดยสมัยก่อนชาวบ้านมักพบปรากฏมีดวงแก้วออกมาจากยอดพระธาตุเจดีย์ส่องแสงสว่าง มีขนาดเป็นรูปทรงกลมเท่าผมส้ม เปล่งรัศมีสุกใสสีส้มแกมสีเขียวมรกตดังสีพระจันทร์ ทรงกรด แสงสุกใสดังกล่าวมักจะมีปรากฏให้เห็นช่วงเวลาใกล้วันสำคัญของพระพุทธศาสนา เมื่อกาลเวลาผ่านไปวัดก็เริ่มชำรุดทรุดโทรม มีการบูรณปฏิสังขรณ์หลายครั้ง โดยบูรณะพระวิหาร ตกแต่งฐานพระประธานประดับด้วยมุก ประตูด้านหน้าแกะสลักเป็นภาพพุทธประวัติ ทำฉัตรเก้าชั้นด้วยเงินจากเมืองตะโก้ง หงสาวดีไว้ในพระวิหาร และภายหลังกรมศิลปากรได้เข้ามาบูรณะพระธาตุเจดีย์และพระอุโบสถวัดหัวข่วง

 Visitor:10