วัดหลวงราชาวาส 
[ไม่มี]

ไม่มี แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม ศาสนสถาน (วัด/โบสถ์/มัสยิด ฯลฯ)

แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม

ภาคเหนือ กลุ่มครอบครัว/


เปิดGoogle map

วัดหลวงราชาวาส ต.อุทัยใหม่ อ.เมือง จ.อุทัยธานี เป็นศาสนสถานสำคัญอีกแห่งหนึ่งในเมืองอุทัยธานี ตามประวัติที่มีการสืบทอดต่อกันมา วัดแห่งนี้ สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ตอนปลาย ราวปีพ.ศ.2370 สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย โดยความประสงค์ของเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงท่านหนึ่ง ที่ได้มีโอกาสมาด้วยงานราชการ ซึ่งเชื้อพระวงศ์ท่านนั้นเกิดความประทับใจ ต่อเมืองอุทัยธานี คิดสร้างวัด จุดประสงค์หลัก ต้องการให้เป็นพระอารามหลวง ครั้นกลับไปถึงเมืองหลวง ได้สั่งการให้บ่าวไพร่ของท่านไปสำรวจพื้นที่ในการสร้างวัด โดยได้บอกจุดที่ตั้งของการสร้างวัดเอาไว้ ข้าราชบริพารที่มาสำรวจ เห็นว่าบริเวณที่จะสร้างวัดตามที่ท่านชี้บอก เป็นสถานที่ตั้งอยู่ใกล้กับชุมชนมากเกินไป จึงได้สำรวจสถานที่ที่จะสร้างวัดเสียใหม่ และนำที่ตั้งเป้าหมายแห่งการสร้างวัดไปกราบเรียน ปรากฏว่าเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงผู้มีเมตตาจะสร้างพระอารามหลวง ไม่พอใจคณะสำรวจ จึงได้ยกเลิกการก่อสร้างวัดนั้นเสีย ชาวบ้านแถบชุมชนเมืองอุทัยธานีในขณะนั้น จึงพร้อมใจกันสร้างวัดขึ้นมา เมื่อแล้วเสร็จจึงเรียกขานนามวัดแห่งนี้ว่า "วัดหลวงราชาวาส" ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ชาวบ้านมักเรียกสั้นๆ ว่า "วัดหลวง" ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ราวปีพ.ศ.2428 มีอุโบสถตั้งคู่วิหารเก่าแก่ ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐาน "หลวงพ่อในวิหาร" เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ สร้างจากศิลาแลง 9 ก้อน หนึ่งเดียวในโลก มีดอกบัวรองในฝ่ามือ บนเสาในวิหารมีภาพวาดลวดลายศิลปะแบบจีน พระอธิการธนิต อัตตธโน เจ้าอาวาสวัดหลวงราชาวาส รูปปัจจุบัน กล่าวว่า วัดหลวงราชาวาส แม้จะเป็นวัดเล็ก แต่ในอดีตมีชื่อเสียงยิ่งนัก โดยเฉพาะในสมัย หลวงปู่ตี๋ ญาณโสภโณ หรือ พระครูอุทัยธรรมกิจ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ท่านได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในพระเกจิอาจารย์ที่มีจิตแกร่งกล้า สมาธิเข้มขลัง นำพระธรรมมาเป็นกุศโลบายและเครื่องชี้นำลึกซึ้งยิ่งนัก หลวงปู่ตี๋เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองสะแกกรัง ต้นตำรับสุดยอดเครื่องราง ตะกรุดโทน ที่มีประสบการณ์กล่าวขวัญ เลื่องลือไปทั่ว ได้รับการถ่ายทอดวิทยาคมจาก หลวงพ่อพูน วัดหนองตางู, หลวงพ่อพลอย วัดห้วยขานาง, หลวงพ่อเคน วัดดงเศรษฐี, หลวงพ่อพุฒ วัดทุ่งแก้ว รวมทั้งพระเกจิ อาจารย์ชื่อดังอีกหลายท่าน หลวงปู่ตี๋ มีเอกลักษณ์อย่างหนึ่ง คือ การพูดตรงไปตรงมา ท่านไม่เคยแสดงตัวโอ้อวด แม้ท่านจะมีชื่อเสียงในเรื่องของการจัดสร้างวัตถุมงคลจนเป็นที่นิยมกันในวงการพระเครื่อง ด้วยสังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยงแท้ วันที่ 1 มี.ค.2546 เวลา 11.57 น. หลวงปู่ตี๋ละสังขาร ด้วยอาการสงบ สิริอายุ 91 พรรษา 71 และ ร่างอันสงบนิ่งของหลวงปู่ตี๋ บรรจุไว้ใน โลงแก้ว ประดิษฐานไว้ให้ศิษยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้ ณ หอสวดมนต์ วัดหลวงราชาวาส

 Visitor:30